ฺBrochure

8 เทคนิคแก้นิสัยเด็กติดเกมคอมพิวเตอร์

โรคเด็กติดเกมคอมพิวเตอร์ เป็นภัยต่อสุขภาพและครอบครัว ขั้นตอนทั้ง 8 ต่อไปนี้น่าจะช่วยเด็กที่ติดเกมหรือคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกติดเกม เลิกติดเกมคอมพิวเตอร์ได้ไม่มากก็น้อย

                 1.จำกัดการเล่นลง เป็นการยากที่จะตัดขาดโดยทันที การควบคุมโดยจำกัดชั่วโมงการเล่นน่าจะเป็นตรงกลางของการเลิกและการติดเกม เช่น กำหนดให้เล่นในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงในแต่ละวัน และเมื่อเด็กได้ทำหน้าที่เสร็จแล้ว เช่น การบ้าน กินข้าวหรืออาบน้ำแปรงฟันเสร็จแล้ว เป็นต้น มีคำแนะนำให้เด็กเล็กได้ใช้คอมพิวเตอร์เพียง 30 นาทีต่อวัน  เพื่อฝึกทักษะการมองเห็น การตอยสนอง อย่าใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์เป็นพี่เลี้ยงเด็ก  เพราะอาจจะทำให้เด็กติดมากจนมีปัญหาในการเข้าสังคม และไม่สนใจการละเล่นหรือการอ่านหนังสืออื่นๆ ซึ่งยังจะมีปัญหาทางกายภาพอื่นๆ อีกตามมา เช่น โรคอ้วน โรคกระเพาะ สายตาสั้น เป็นต้น

                2.เลือกเกมให้เหมาะสม เกมที่ไม่มีความซับซ้อน เกมที่เล่นจบง่าย เพื่อให้สอดคล้องกับเวลาที่จำกัดเกมที่จำเป็นต้องเล่นต่อเนื่องแบบมีจุดเซฟเป็นระยะ หรือเกมออนไลน์เป็นชนิดเกมที่ควรหลีกเลี่ยง  เพราะจะไม่สามารถควบคุมเวลาหรือหยุดเล่นได้เมื่อครบเวลาที่กำหนด

                3.ผู้ปกครองมีส่วนเฝ้ามองและควบคุม  " หากเกมควบคุมหรือดึงความสนใจเด็กได้ ผู้ปกครองสามารถควบคุมเหนือเกม " เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเกมจะต้องอยู่ในห้องของผู้ปกครองเห็นได้ง่าย เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก เป็นต้น และเมื่อหมดเวลาที่ตกลงหรือเด็ไม่ทำตามข้อตกลงที่เด็กได้ทำไว้ ผู้ปกครองสามารถดึงอุปกรณ์ออกจากมือเด็กได้  ด้วยวิธีเด็ดขาดและมีวินัยจะช่วยปัญหาการติดเกมได้อย่างดี

                4.ผู้ปกครองต้องอย่าเพิกเฉยต่อคำแนะนำและคำเตือนที่มาพร้อมเกม  ลองดูแผ่นปกซีดี / ดีวิดีเกมที่เล่นเป็นประจำ มักจะมีคำเตือนของผู้เล่นที่อายุขั้นต่ำ หรือคำแนนนำไว้ ผู้ปกครองควรทราบว่าเกมนั้นมีเรื่องราวที่สื่อในทางที่ดีก่อนที่เด็กได้เห็น และมีการใช้การโต้ตอบที่เหมาะสม เช่น การใช้เมาส์เลือก การเคลื่อนไหว เป้นต้น

                5.หาอะไรสนุกๆ ให้เด็กทำแทน เด็กจะได้ลืมเล่นเกมซึ่งเป็นวิธีที่ดีและได้ผลที่สุด เพราะเราไม่มียาแก้การติดเกม หรือยาแก้นิสัยไม่ดี  มีเพียงกิจกรรมที่ดีกว่าหรือสนุกกว่าเท่านั้น ที่จะชดเชยการติดเกมได้

               6.ผู้ปกครองหากิจกกรมเสริมไปร่วมกับการควบคุมเวลาในการเล่นเกม  อาจจะเล่นซ่อนหาแต่เป็นการซ่อนแผ่นเกมแทน ก็อาจจะได้ผลเหมือนกัน หรือซ่อนไอคอนของเกมโดยย้ายไปที่ต่างๆ ซึ่งคงจะใช้วิธีนี้ได้ผลไม่กี่ครั้ง

               7.ให้กำลังใจและเข้าใจเด็กมากที่สุด แม้ว่าความเด็ดขาดหรือการห้ามจะจำเป็นในบางครั้ง แต่ความเข้าใจกันมีเหตุและผล จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

               8.ผู้ปกครองต้องมีเวลาอยู่กับเด็ก เพราะเด็กที่ติดเกมมักมีสาเหตุจากการที่พ่อแม่ไม่ได้ให้เวลาหรือมีกิจกรรมร่วมกันกับเด็กน้อย หาโอกาสพาเด็กไปเที่ยวสนุกสนาน ไปทานอาหารนอกบ้าน ให้เด็กเข้าชมรมกีฬาหรือดนตรีที่เขาชอบหรือถนัด มีกิจกรรมอีกมากมายที่ทำให้มีความสุขมากกว่าคอมพิวเตอร์หรือวิดีโอเกม บางครั้งกิจกรรมที่น่าสนใจกว่าจะเป็นจุดเริ่มที่ดีหากอยากให้เด็กเลิกติดเกมคอมพิวเตอร์

มาดูกันลักษณะเด็กติดเกมเป็นไง

การสังเกตลักษณะของเด็กติดเกม ???

         
           1. ไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เล่นในเวลาที่กำหนด ทำให้ใช้เวลาในการเล่นนานติดต่อกันหลายๆชั่วโมงหรือเล่นนานขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มเป็นหลายชั่วโมงต่อวัน บางคนเล่นข้ามวันข้ามคืน
         2. หากถูกบังคับให้เลิกหรือหยุดเล่นจะต่อต้าน   หรือมีปฏิกริยาหงุดหงิดไม่พอใจอย่างรุนแรง   บางคนถึงขั้นก้าวร้าวอย่างเช่น เริ่มไม่เชื่อฟังพ่อแม่บ้าง  ไม่เถียง  เป็นต้น
         3. การเล่นของเด็กมีผลกระทบต่อหน้าที่ความรับ  ผิดชอบของเด็ก เช่น เด็กไม่สนใจการเรียน ไม่สนใจที่จะทำการบ้าน หนีเรียนหรือแอบหนีออกจากบ้านเพื่อจะไปเล่นเกม การเรียนตกลงอย่างมาก ละเลยการเข้สังคม หรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว
         4. บางรายอาจมีปัญหาพฤติกรรมอื่นๆร่วมด้วย เช่น โกหก ลักขโมย (เพื่อนำเงินไปเล่นเกม) ดื้อต่อต้านแยกตัว เก็บตัว ฯลฯ

ปัญหาสังคมสมัยใหม่

ขอต้อนรับนักอ่านทุกท่านเข้าสู่เว็บของเรา ที่ ณ ตอนนี้ทางเราได้เริ่มมีความสนใจทางด้านการที่เด็กๆสมัยใหม่ติดคอมพิวเตอร์ มากกว่าการอยู่กับสิ่งรอบนอก  ซึ่งเด็กเหล่านี้พวกเขามีปัญหาอะไรที่ต้องหันไปติวคอมพิวเตอร์ และสิ่งแรกที่พวกเขานึกคิดได้สิ่งแรกก่อนที่จะทำอย่างอื่น ซึ่งเจ้าปัญหาตัวนี้แหละเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เด็กสมัย ไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์  สายตาสั้น  สมาธิสั้น

ซึ่งเจ้าปัญหาที่กล่าวมานี้ก็คือ  เกมส์

จุดประสงค์

• อยากจะให้เด็กๆสมัยใหม่หันหน้าเข้าหาคนรอบตัวมากกว่าการหันหน้าเข้าหน้าจอคอมพิวเตอร์
• เพื่อจะได้้สอนให้เด็กมีการปรับเปลี่ยนนิสัยของตัวเอง
• เพื่อให้เด็กๆ แบ่งเวลา ลำดับความสำคัญ ในชีวิตประจำวัน
• ลองเปิดหูเปิดตากับสิ่งใหม่ๆบ้าง

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

• เด็กๆที่ได้อ่าน จะได้รู้จักการเข้าหาสังคม
• นิสัยเดิมของเด็กๆเหล่านี้อาจจะเปลี่ยน ในทางที่ดีขึ้น
• จะได้ทำให้เราได้แบ่งเวลา ความสำคัญของสิ่งไหนควรทำก่อนทำหลัง
• ได้เจอผู้คนที่ดีๆ ไม่ใช่จมปรักกะสิ่งเดิมๆ